“อกหัก” เป็นอาการหนึ่งที่พบได้บ่อย พบได้ตั้งแต่วัยที่เริ่มมีความรัก(อนุบาลถึงผู้สูงวัย) อุบัติการณ์พบได้บ่อยมาก ถึงมากที่สุด (ให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่เป็น) อาการและอาการแสดงที่พบ เป็นได้ตั้งแต่ เพิกเฉยไม่สนใจ โกรธ ซึมเศร้า ความคิดหมกมุ่น/กลับไปกลับมา ขอต่อรองคืนดี ประชดรักโดยใช้สารเสพติด(สุรา ฯลฯ) ทำร้ายตัวเอง หรือ อาจพบเป็นอาการทางกาย เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปวดหัว รู้สึกแน่นหน้าอก ใจสั่น บางคนบอกว่ารู้สึกเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณเหมือนไม่มีตัวตน ตัวลอย ไม่มีสติ ฯลฯ.....
ระยะของอาการอกหัก
ช๊อก/ปฏิเสธความจริง : ตัวชา เบลอ งง มักเกิดในช่วงแรกหลังถูกปฏิเสธ ถูกบอกเลิก อาจเป็นแค่เสี้ยวนาที หรืออาจเป็นอยู่ได้นานหลายวัน
ช๊อก/ปฏิเสธความจริง : ตัวชา เบลอ งง มักเกิดในช่วงแรกหลังถูกปฏิเสธ ถูกบอกเลิก อาจเป็นแค่เสี้ยวนาที หรืออาจเป็นอยู่ได้นานหลายวัน
โกรธ : เพราะ.(เธอ).คนเดียว ไม่มี..(เธอ) ฉันคงไม่ต้องเป็นแบบนี้ ช่วงนี้ถ้าโกรธมาก แค้นมาก บางคนขาดสติถึงขนาดตามไปทำร้ายกันจนถึงแก่ชีวิต
ซึมเศร้า : กลับมาโทษตัวเอง มองตัวเองแย่ ฉันคงไม่ดีพอ ฉันมันไม่มีค่า บางคนเป็นหนักถึงขั้นเห็นตัวเองไร้ค่า ไม่อยากมีชีวิต ตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ต่อรอง : ยื้อยุด ชักกะเย่อ ฉันขอโอกาส ฉันจะปรับปรุงตัวเอง ฉันยอมทุกอย่างแล้วเพียงแค่ได้มีเธอ
ยอมรับ : มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น กลับมารักตัวเอง ปล่อยความหลังในอดีต ให้อภัย ใจเป็นสุข
ระยะอาการที่เกิดขึ้นเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นไม่ครบทุกระยะ หรืออาจเกิดขึ้นกลับไปกลับมาก็ได้
ความรุนแรงของอาการขึ้นกับ
- ระดับความรักที่มีให้ รัก(เขา)มาก(แต่รักตัวเองน้อย) ก็เจ็บมาก
- ความคาดหวัง หวังมากก็เจ็บมาก
- ระยะเวลาที่ความรักก่อตัว (ความผูกพัน) ความทรงจำในอดีตมาก ย้อนกลับมาทำร้ายมาก
- สิ่งที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ เกิดปัญหาร้ายแรง(ทางความรู้สึกมาก) เห็นภาพบาดตาบาดใจ มือที่สาม โกหกหลอกลวง ทำร้ายร่างกาย ทำให้ท้องแล้วทิ้ง ฯลฯ แค้นมาก เจ็บมาก
- ความถี่ของการเกิดอาการ เกิดครั้งแรกภูมิต้านทานต่ำ เกิดซ้ำหลายครั้งเริ่มชินชา
ทำไมถึงรู้สึกเจ็บเมื่อโดนหักอก
รู้สึกเหมือนโดนทำร้าย (เห็นตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ) : ที่รู้สึกแบบนี้เพราะการโดนปฏิเสธ ก็เหมือนกับถูกทำลาย Self (เสีย Self เสียหน้า เสียศักดิ์ศรี เหมือนตัวเองต่ำต้อย ไร้ตัวตน ไม่มีค่า ไม่มีราคา) ซึ่งทั้งหมดนี้มักเกิดจากความคิด การรับรู้การตีความ ของเราเอง (คิดเองเออเอง) และความคิดเหล่านี้ก็ยิ่งกลับมาทำร้ายเราซ้ำๆ
ความเป็นจริง มีเหตุผลล้านแปดที่ทำให้คนสองคนเลิกกัน ไม่ใช่เพราะเราไม่ดี
"อย่าตัดสินคุณค่าของตัวเองเพียงแค่เขาไม่รัก เขาไม่ได้มีค่าพอที่จะมาตัดสินคุณค่าของชีวิตเรา"
รู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรไป : ช่วงที่มีความรัก รู้สึกมีความสุข(อย่างมาก สารความสุขหลั่งมาท่วมท้น) มีคนรัก มีคนดูแล มีคนเอาใจ เวลาสิ่งเหล่านี้หายไปอาการก็เหมือนคนติดยาเสพติด มีอาการที่เรียกว่า"ลงแดงความรัก" จะตายให้ได้
ความเป็นจริง ไม่มีใครตายเพราะอกหัก(ถ้าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย) และความเป็นจริง คุณไม่ได้เสียอะไรไป คุณยังหาความสุขได้จากอย่างอื่น การดูแลตัวเอง เอาใจ ตามใจตัวเอง ง่ายกว่าคาดหวังให้คนมาเอาใจ คุณยังดูแลตัวเองได้เหมือนเดิม
"เราอาจเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึก เสียความบริสุทธิ์ เสีย...ฯลฯ......ไป แต่หลังจากนี้ทุกเวลา เงินทุกบาท ความรู้สึกทุกอย่าง ฯลฯ กลับมาเป็นของเรา เราจะไม่ยอมเสียให้ไปอีก"
“อกหัก” ก็เหมือนกับเกิดอุบัติเหตุ(ทางใจ) ทำให้เกิดบาดแผล(ทางใจ) อาจเป็นแค่แผลถลอก (เจ็บเล็กๆ) หรือบางคนก็อาจเป็นแผลฉกรรจ์
แผลทุกแผลมีวันหาย ถ้าดูแลให้ดี ซึ่งโดยปกติร่างกายมีกลไกในการสมานแผลของตัวเอง อาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน (แผลโดยทั่วไปไม่ควรเจ็บนานเกิน 2 เดือน)
"รักไม่ต้องการเวลา แต่เสียใจเพราะรักต้องการเวลานะคะ
"
ล้างแผลให้สะอาด : ร้องไห้เสียให้พอ เก็บของที่จะทำให้คิดถึงความรัก(ที่ทำร้าย) ออกไปให้หมด ทั้งรูป จดหมาย เบอร์โทร facebook ฯลฯ
หายาดีๆมาทา : ออกไปหาสังคมอื่นๆที่ห่างหายไปนาน ครอบครัว(พ่อ แม่ พี่น้อง) เพื่อนๆ(ที่ยังรอคุณกลับไปร่วมก๊วน) พวกเขาพร้อมดูแลคุณเสมอ
หลีกเลี่ยงการไปถูกโดนแผลซ้ำๆ : บางคนถูกทำร้ายครั้งเดียวไม่พอ ยังพยายามติดต่อ เพื่อตอกย้ำความรู้สึกให้ตัวเองเจ็บซ้ำๆ แผลก็จะยิ่งหายช้า ทางที่ดี อย่าเพิ่งติดต่อในช่วงเวลารักษาแผลใจ
"ไม่มีใครทำร้ายเรา ได้เจ็บเท่า เราทำร้ายตัวเอง" หยุดดีดหนังสติกใส่ตัวเองได้แล้ว
ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง : หาอะไรอร่อยๆกิน ออกกำลังกายบ้าง(ระบายความโกรธออกไป) นอนพักเพียงพอ ลุกขึ้นมาแต่งหน้า/ แต่งตัว ทำตัวเองให้ดูดี อย่าหนีไปใช้ยาเสพติด (มันจะทำให้คุณดูแย่จริงๆ)
หากิจกรรมทำืื : ช่วงที่เกิดอาการอกหัก มักรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปช้า ควรหากิจกรรม ฟังเพลง เล่นดนตรี เรียนวาดรูป ช้อปปิ้ง ให้เวลาเดินเร็วขึ้น
พักใจ : ใจที่บอบช้ำ ต้องการเวลาเยียวยา อย่าเพิ่งหาใครมาดามหัวใจ เพียงเพื่อไม่อยากเหงา หรือประชดรัก เพราะนั่นจะยิ่งทำให้เจ็บมากยิ่งขึ้น
"เสียใจ แต่ไม่แคร์"
ข้อดีของการกลับมาเป็นโสด
มีเวลาให้ตัวเองเต็มที่ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องแบ่งอีกครึ่งชีวิตให้กับใคร กลับมารักตัวเองได้เต็มร้อย เอาใจตัวเองให้เต็มที่ ไม่ต้องคอยเอาใจใคร
มีโอกาสเต็มที่กับการได้เรียนรู้สิ่งๆใหม่ คนใหม่ๆ (คนมีคู่ไม่มีโอกาสนั้น) หาเพื่อนใหม่ๆ กิจกรรมใหม่ๆ ใช้ชีวิตนึงที่เกิดมาให้คุ้ม (แต่ไม่ใช่สำส่อนนะคะ)
มีเวลาดีๆ ที่จะใช้เวลาโสดๆ ฝึกที่จะอยู่กับตัวเอง รักตัวเอง เป็นเพื่อนกับตัวเอง อนาคตเมื่อเจอกับความเหงาจะได้หัวเราะกับความเหงาได้อย่างบ้าคลั่ง ทุกคนเกิดมาคนเดียว ตายคนเดียว ทุกสิ่งต้องมีการพรากจากไม่จากเป็นก็จากตาย ฝึกอยู่กับตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้
เป็นโอกาสอันดี ที่จะได้กลับมาทบทวน มองตัวเอง ที่ผ่านมาเรามีข้อดี ไม่ดีตรงไหน (บางครั้งอาจได้จากเหตุผลของการบอกเลิกนั่นแหละ) แทนที่จะโทษตัวเอง เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส มาทบทวนความเป็นจริง เอ! เราเจ้าอารมณ์จริงรึเปล่า ? เราเห็นแก่ตัวหรอ ? เรามันดูไม่มีอนาคต ? และใช้โอกาสนี้หาทางแก้ไข เปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวเองใหม่ (ให้คนเสียดายเล่นดีกว่า)
"โสดให้คนเสียดาย ดีกว่าเป็นของตายให้เขาทำร้ายเล่น"