วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

กว่าจะมาเป็นจิตแพทย์


จิตแพทย์ = จิต + แพทย์ สรุปแล้วจิตแพทย์ ก็คือ หมอทั่วไปๆนี่แหละที่สนใจเกี่ยวกับการตรวจโรคหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ อารมณ์ ความคิด พฤติกรรม ของมนุษย์


แต่ด้วยความที่มันเกี่ยวข้องกับแนวจิตๆ สังคมไทยที่ยังไม่คุ้นเคยกับจิตแพทย์ ดังนั้นเมื่อเอ่ยถึงจิตแพทย์ก็มักมีภาพของ “ หมอโรคจิต” “คนบ้า” “หลังคาแดง ที่มีแต่พวกเพี้ยนมารวมตัวกัน ” “คดีฆ่าคน” ซึ่งมีแต่ภาพลักษณ์ในเชิงลบ หนำซ้ำยังถูกกระตุ้นด้วยสื่อบางประเภทที่ทำให้ดูเหมือนการรักษาโรคจิตเวชออกแนวไสยศาสตร์ สะกดจิต แกว่งลูกตุ้ม อ่านใจคนได้ ขนาดฉันเองพอใครรู้ว่าว่าฉันเป็นจิตแพทย์ ก็มักจะกลัว กลัวว่าฉันจะอ่านใจได้ ล่วงรู้ความคิดเค้า โอ๊ย...ฉันไม่ได้เป็นแม่มดหมอผีนะ จะได้ทำอย่างนั้นได้


จิตแพทย์ ≠ นักจิตวิทยา มีหลายคนสับสนระหว่างนักจิต กับจิตแพทย์ว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร จิตแพทย์ คือ แพทย์ที่เรียนจบ แพทยศาสตรบัณฑิต 6 ปี เพื่อเรียนรู้โรคพื้นฐานทั่วไป จากนั้นต้องมาเรียนต่อเฉพาะทางอีก 3 ปี (จิตเวชทั่วไป) หรือ 4 ปี (จิตเวชเด็กและวัยรุ่น ) และสอบเพื่อให้ได้วุฒิบัตร/อนุมัติบัตรเฉพาะทางจิตเวช โดยจิตแพทย์ที่สอบผ่านแล้วจะได้เป็นสมาชิกของราชวิทยาลัยจิตแพทย์(แห่งประเทศไทย ) ขณะนี้ยังมีเพียงประมาณ 800 คนทั่วประเทศ ส่วนนักจิตวิทยาอาจเป็น นักจิตวิทยาคลินิก ซึ่งต้องสอบใบประกอบโรคเพื่อจะได้ใช้เป็นหลักฐานทำงานกับผู้ป่วยได้ หรือคนที่จบปริญญา ด้านจิตวิทยา ส่วนใหญ่ขึ้นกับคณะมนุษยศาสตร์ เป็นต้น




ดังนั้นหน้าที่ในการทำงานหลักๆจึงต่างกัน คือ แพทย์ มีหน้าที่หลักในการ วินิจฉัยโรค ให้การบำบัดรักษาทั้งทางยาหรือการแนะนำให้ทำจิตบำบัดแบบต่างๆ ส่วนนักจิตวิทยามีหน้าที่หลักในการทำแบบประเมินทดสอบทางจิตวิทยา บางคนอาจเรียนด้านการทำจิตบำบัดประเภทต่างๆ เพิ่มเติม แต่อย่างไรการดูแลผู้ป่วยเราก็ทำงานกันเป็นทีมคือ นอกจากจิตแพทย์ นักจิตวิทยาแล้ว ยังมี ทีมพยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ นักกิจกรรมบำบัด ทำงานร่วมกันแบบ สหวิชาชีพ

จิตแพทย์เรียนอะไรกันบ้าง

ก็เรียนเหมือนหมอทั่วไป ตั้งแต่ การซักประวัติ ตรวจร่างกาย(และการตรวจสภาพจิต) เรียนเกี่ยวกับโรคต่างๆ ตั้งแต่ กลไกการเกิดโรค พยาธิสภาพการเกิดโรค สาเหตุการเกิดโรค การดำเนินโรค การรักษาโรค การป้องกันการเกิดโรค แต่ลงลึกในโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในเชิงอารมณ์ ความคิด การรับรู้ พฤติกรรม ความสัมพันธ์ (ที่หลายคนคิดว่าเป็นเพียงแค่นิสัยไม่ดี สันดานไม่ดี อารมณ์ไม่ดี แค่นั้น ) อาจจะต่างกับแพทย์สาขาอื่นตรงที่การตรวจสภาพจิตนี่แหละ ที่แพทย์สาขาอื่นรักษาโรคที่ตรวจเจอแบบเห็นกันจะๆ ขาหัก เป็นหนอง ตับแตก สิวขึ้น ท้อง เป็นต้น แต่จิตแพทย์รักษาแผลอีกแบบหนึ่ง แต่เป็นแผลชนิดที่มองไม่เห็น ( Invisible wound ) แทน

ดังนั้นทักษะที่ต้องเพิ่มพูนอย่างมากในการเรียนคือ ทักษะการฟัง การตั้งคำถาม การแปลความจากสิ่งที่เห็น ความช่างสังเกต การ ใส่ใจกับคนตรงหน้า เพื่อให้เกิดความเข้าใจโลกภายใน แผลสด/แผลเป็นที่ซ่อนอยู่ภายในตัวผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด การรักษานอกจากการเรียนเรื่องยาที่ส่วนใหญ่มีผลออกฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทในสมองแล้ว ยังต้องเรียนเรื่องการทำจิตบำบัด ซึ่งมีหลากหลายแนวมาก แต่ละแบบก็เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน นอกจากรู้หลักการแล้ว วิธีการเรียนก็ต้องเอาตัวเข้าแลก ต้องใช้ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยน เข้าใจ เรียนรู้ พัฒนากระบวนการทางจิตใจ (ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีของการเรียนจิตเวช คือ เราสามารถดูแล รักษา พัฒนาตัวเองได้ไปพร้อมๆกัน)

“ จิตแพทย์ก็คือ หมอธรรมดาๆ นี่แหละ เพราะฉะนั้นอย่ากลัว อย่าอาย ที่จะไปหาจิตแพทย์ ทุกคนมีจิตใจ บางครั้งจิตใจของคุณก็ไม่สบายเป็นนะคะ ” 

26 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 พฤษภาคม 2556 เวลา 18:09

    ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ
  4. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ6 กรกฎาคม 2556 เวลา 16:17

    จิตแพทย์ต้องไปรักษาหรือผ่าตัดคนเหมือนหมอทั่วไปรึเปล่าคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ18 ตุลาคม 2558 เวลา 19:56

      มึงบ้ารึเปล่า ถามโง่ๆ นนย

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ18 ตุลาคม 2558 เวลา 19:59

      มึงบ้ารึเปล่า ถามโง่ๆ

      ลบ
    3. ก้ตอนเรียนหมอไง ผ่าอาจารย์ใหญ่

      ลบ
  6. ต้องการพบจิตแพทย์ สามารถไปที่ไหนได้ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โรงพยาบาลค่ะพี่ถูกป่ะค่ะ������

      ลบ
  7. สวัสดีครับผมกำลังใ้ช้ทุนอยากเรียนต่อด้านจิตแพทย์ สนใจพูคุยแลกเปลี่ยนกับพี่ครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ10 พฤษภาคม 2558 เวลา 21:59

      มี facebook มั้ยครับ

      ลบ
    2. อยากคะ มีทางไกนที่หนูสามารถติดต่อพี่ได้มั้ย

      ลบ
    3. อยากคะ มีทางไกนที่หนูสามารถติดต่อพี่ได้มั้ย

      ลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ10 มีนาคม 2557 เวลา 08:41

    พี่ค่ะ หนูอยากเรียนจิตแพทย์แต่หนูเรียนไม่แค่เก่ง อย่างนี่จะเรียนได้มั๊ยค่ะ

    ตอบลบ
  9. ไม่ใช่จิตแพทย์ครับ แต่เป็นนักโหราศาสตร์ที่มีจิตสัมผัส และสามารถให้คำปรึกษาในการดำเนินชีวิตได้ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สนใจดูรายละเอียดที่ www.singtotarot.com หรือ โทร 0847510672

      ลบ
  10. การที่จะเป็นจิตแพทย์ได้ต้องเรียนเหมือนแพทย์ทั่วไปก่อน คือต้องเรียนผ่าศพ(อาจารย์ใหญ่)เหมือนกับเรียนแพทย์เลยใช่มั้ยคะ???

    ตอบลบ
  11. ซักอยากเป็นจิตเเพทย์เหมือนกัน

    ตอบลบ
  12. ซักอยากเป็นจิตเเพทย์เหมือนกัน

    ตอบลบ
  13. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  14. คุณหมอคะ หนูมีเรื่องอยากสอบถามค่ะ ขอข้อมูลติดต่อด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
    waritha.pang@gmail.com

    ตอบลบ
  15. ไม่ระบุชื่อ1 มีนาคม 2562 เวลา 20:25

    ตามรพทั่วไปเลยค่ะ แต่ต้องใหญ่หน่อยแล้วไปลองสอบถามว่ามีปัญหาอยากปรึกษาจิตแพทย์ ที่นี่มีมั้ย ถ้ามีก็จะมีทั้งนอกเวลาและในเวลาถ้าของรัฐบาลนะคะ ลองไปสอบถามดูได้ค่า

    ตอบลบ
  16. คนเรียนจิตเเพทย์ถ้าจบหล้กสูตร
    -//-เป็นออทิสติกสามารถเป็นหมอได้ไม
    พอดีญาติเป็นอยู่เเ่อาการเหมือนคนทั่วเเค่ขึ้้นชื่อว่าเป้นเฉยๆ
    รู้ตอบให้หน่อยนะค่ะ

    ตอบลบ
  17. Raging Bull Casino | Free £5 No Deposit Bonus
    Raging Bull Casino is rated 4.9 out of 5 아이 벳 25 by our members seda bet and 27% 크롬 번역기 of them said: 슬롯 "liked it". They also said: "liked it". Rating: 4.9 · 벳365 ‎Review by CasinoTopToadster

    ตอบลบ