ช่วงที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเข้าค่ายอบรมการทำจิตบำบัด มีกิจกรรมนึงที่ประทับใจมาก คือ การออกไปเดินสำรวจรอบๆเพื่อหาสิ่งที่เรียกว่า พลังชีวิต แล้วกลับเข้ามาแลกเปลี่ยนให้เพื่อนฟัง ถึง พลังชีวิตของตน หลายๆคน มีความคิดดีๆ
บางคนบอกว่า พลังชีวิต ของเขา เป็นเหมือนกับ ท้องฟ้า ที่คอยโอบอุ้มเขาอยู่ตลอด ยามที่เขาเศร้า
มองบนฟ้า ถ้า ฟ้าหม่น ก็เหมือนฟ้าร้องไห้เป็นเพื่อนเขา แม้ว่าฟ้าจะแจ่มใสก็ยังแปลได้ว่า ท้องฟ้า ยิ้ม ให้กำลังใจ และเหมือนกับฟ้า อยากจะบอกเขาว่า ยังมีวันที่สดใสรอเราอยู่นะ
บางครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อย รู้สึกว่า พลังชีวิต ได้หมดลงไปแล้ว และพยายามที่จะออกไปหาพลังชีวิตจากภายนอก แต่กลับหาไม่เจอ การที่เราได้มาอยู่กับตัวเอง ก็จะได้พบว่า เรายัง
มีลมหายใจอยู่นะ พลังชีวิตก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก และมันก็อยู่เป็นพลังให้เราจนหมดลมหายใจนั่นแหละ ไม่ต้องไขว่ขว้าหาจากโลกภายนอก พลังชีวิตอยู่แค่ปลายจมูก นี่เองค่ะ แต่แค่เรามักจะลืมมัน ( แล้วมันก็จะอยู่เป็นเพื่อนกับคุณไปตลอดชีวิตด้วยนะคะ เพราะถ้ามันหายไปเราก็คง หายไปพร้อมๆกับมันเหมือนกัน )
ซึ่งถ้าฉันเอาหลักการศึกษามาอธิบายให้ดูจริงจังขึ้นอีกนิด มันก็ทำให้ฉันนึกถึงการนั่งสมาธิ (meditation)หรือ การออกกำลังกายแบบโยคะ ที่การหายใจ( ที่ถูกต้อง ) ก็ช่วยให้ร่างกาย และจิตใจของเราดีขึ้นมากๆค่ะ มีหลายๆการศึกษา ที่พบว่าทั้งสองวิธีที่กล่าวมา สามารถช่วยรักษาโรคต่างๆได้ เช่น โรคซึมเศร้า , โรคนอนไม่หลับ, โรคปวดศีรษะ ฯลฯ ซึ่ง ก็น่าจะเป็นผลจากการที่เราสามารถหายใจเอา oxygen เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วก็นำไปเลี้ยงสู ่cell ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน แล้วแถมการหายใจออกก็ยังบรรทุกเอาของเสียของจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพด้วย.. เห็นประโยชน์ของลมหายใจของคุณรึยังค่ะ เวลาที่รู้สึกหมดพลัง ลองออกไปหาที่อากาศบริสุทธิ์สูดหายใจเข้า
ออกลึกๆ ดูบางทีคุณจะได้เห็นพลังชีวิตของคุณมากขึ้นนะคะ
.. แล้วเราพลังชีวิตของคุณ อยู่ที่ไหนกันบ้างคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น