“ตำรับรัก”
1. ความรัก : เอ! หน้าตามันเป็นยังไงนะ แล้วหาซื้อได้ที่ไหน ใช่หัวใจหรือป่าว
ส่วนประกอบ “เครื่องแกงความรัก”
ทำไมถึงขาดรักไม่ได้ เพราะที่จริงความรักมาช่วยเติมความต้องการของมนุษย์ แค่เราเข้าใจความต้องการของเพื่อนมนุษย์และเราสามารถตอบสนองความต้องการหรือช่วยให้เขาเติมเต็มเติมในสิ่งเหล่านี้ได้ เราก็จะเป็นคนสำคัญของใครซักคนได้ไม่ยาก จากทฤษฎีของ มาสโลว์ (Maslow) เชื่อว่าเรามีความต้องการพื้นฐานเหมือนกันคือ
ด้านร่างกาย : ทุกคนต้องการปัจจัยสี่ตั้งแต่อาหาร น้ำ เสื้อผ้า ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย ตั้งแต่เกิดมาเรารู้ว่า แม่รักเราเพราะแม่ให้น้ำนมเรากิน ให้เราอยู่รอด เราจึงเรียนรู้ง่ายๆว่า ใครที่มีน้ำใจ แบ่งปัน เอาใจใส่เราเหมือนที่แม่เราทำให้ เราก็คงรู้สึกดีไม่น้อย การดูแล เอาใจใส่ แบ่งปัน จากใครซักคนจะมาช่วยเติมเต็มความต้องการตรงนี้ของเรา
ความปลอดภัย : เราทุกคนชอบอยู่กับคนที่ไม่ทำร้ายเราทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทุกคนอยากมี Safe place เป็นที่ที่เราอยู่แล้วไม่กลัว ไม่ระแวง ปลอดภัย สบายใจ อบอุ่น ทั้งนี้ก็เกิดจากการอาศัย ความเข้าใจ ให้เกียรติ เชื่อมั่น เคารพซึ่งกันและกัน
ความผูกพัน : ความรักอาจเริ่มเพียงเสี้ยววินาที แต่การรักษาให้คงอยู่ต้องอาศัยเวลา เราทุกคนต้องการเป็นส่วนหนึ่งของใครซักคน ไม่อยากรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวบนโลก เราจึงต้องการคนที่ เป็นเหมือนเพื่อน ใกล้ชิด มีความสม่ำเสมอ เคียงข้างไม่ว่ายามทุกข์ หรือสุข
การยอมรับ : ความรักมักมาคู่กับการยอมรับนับถือ ชื่นชม เมื่อเราชอบอะไร เราก็จะเปิดใจยอมรับในสิ่งนั้น ภูมิใจกับสิ่งนั้น อาจเริ่มมาจากความชอบพอ พึงใจ ถูกใจ ในเบื้องต้น ในส่วนที่ดีของกันและกัน แต่เมื่อรู้จักกันแท้ที่จริงเราก็แค่ต้องการใครซักคนที่ ให้การยอมรับกับสิ่งที่เราเป็นทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี ให้อภัยเมื่อทำผิดพลาด และให้โอกาสในการแก้ไข
ความสงบ : สุดท้ายมนุษย์เราไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าความสงบ เราชอบที่จะอยู๋ในสภาวะที่ สบาย ไม่มีความคาดหวังที่ทำให้เรารู้สึกถึงแรงกดดัน เราต้องการคนที่ มีใจเป็นกลาง ปล่อยวางได้ มีความสุขกับตัวเองได้ไม่ต้องรอให้ใครมาเติมเต็ม
เครื่องแกงความรักสูตรนี้ มีส่วนผสมเยอะ พอรู้แล้วก็จับเอาส่วนผสมแต่ละส่วนมาบด โขลก จนละเอียด ให้เข้ากันเพื่อเตรียมไว้ใส่รวมกับส่วนประกอบอื่นๆ
2. คนรัก : ขึ้นชื่อว่าคน นี่ยุ่งวุ่นวายที่สุดแล้ว คนมีความหลากหลายในแง่ หน้าตา บุคลิก การศึกษา ฐานะ คนเราก็มักวุ่นวายอยู่กับการ อยากเป็น “คนน่ารัก” เพื่อจะได้มี ”คนมารัก”
มีศาสตร์หนึ่งที่ชื่อว่า นพลักษณ์ แบ่งคนออกเป็น 9 ประเภทใหญ่ ๆ ตามความใส่ใจหลักที่ให้ เริ่มจากการทำความรู้จักตัวเอง รู้จักคนที่เราชอบก่อน ว่าเรามีข้อดีอะไร ข้อเสียอะไร คนที่เราชอบเขาเป็นอย่างไร เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็ทำให้เราลดโอกาสการเสียเวลาเข้าช่องทางเข้าหาเขาแบบผิดๆ เช่น คน 5 มีโลกส่วนตัว ก็อย่าหวังให้เขาเป็นคนเริ่มชวนเราเที่ยวก่อน มีหวังกินแห้ว เราต้องเป็นคนเริ่มดึงเขาออกมา แต่ต้องมีศิลปะทำอย่างไรไม่เข้าไปรบกวนโลกส่วนตัวเขาเกินไป สามารถศึกษาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.astrosimple.com/enneagram/
ศิลปะการเป็นคนน่ารัก
คนเราสามารถส่งพลังงานออกไปนอกตัวได้ พลังงานนี้เหมือนแม่เหล็ก อาจส่งแรงดึงดูด พลังด้านบวกดึงให้คนอยากอยู่ใกล้ หรือพลังด้านลบ ผลักคนออกไปไกลๆ วันนี้เรามาฝึกส่งพลังด้านบวกกันดีกว่า
- ให้ความรักกับตัวเอง : คนที่รักตัวเองเป็นจะมีความกระตือรือร้นที่จะดูแลเอาใจใส่ร่างกาย จิตใจตนเอง กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายรักษาสุขภาพ รวมถึงการดูแลบุคลิกภายนอกให้ดูดี เป็นตัวของตัวเอง รักษาความสะอาด พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คิดบวก ยิ้มให้กับตัวเองได้
- เห็นคุณค่าในตัวเอง : ภูมิใจในตัวเอง ให้เกียรติตัวเอง ให้ความสำคัญกับตัวเอง เห็นว่าตัวเองเป็นคนดีพอที่จะรักได้ คนส่วนใหญ่อยากให้มีคนมารัก ทั้งๆที่ยังไม่เชื่อว่าตัวเองดีพอจะรักได้
- เห็นคุณค่าคนอื่นและสิ่งรอบตัว : ชื่นชมความดีของคนอื่น ให้อภัยกับความผิดพลาดของคนอื่นได้ คนมักโกรธมักไม่น่ารัก ให้เกียรติ ให้ความรักความปรารถนาดีกับคนอื่นอย่างที่เราอยากให้กับตัวเอง มีความจริงใจ ให้เกียรติอ่อนน้อม มีน้ำใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา
- หลีกเลี่ยงสิ่งอบายมุข หรือสิ่งที่ทำร้ายร่างกาย จิตใจ เช่นการใช้สารเสพติด การทำผิดกฎหมาย ทำร้ายคน/สัตว์/สิ่งของ ก้าวร้าว หยาบคาย ริษยา โกรธ อาฆาต สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นพลังด้านลบ ที่จะผลักเรื่องดีๆ ออกจากชีวิตเรา
“เมื่อเริ่มจากทำตัวเองให้เป็นคนน่ารักแล้ว ส่งพลังด้านบวกออกไป น่าจะดึงดูดให้มีคนมารักได้ไม่ยาก หรือจากการทำความเข้าใจคนที่เราแอบรัก จะก็น่าจะรู้วิธีการเข้าหา ให้เขาหันมารักเราได้ไม่ยากนะคะ”